สามองค์การมหาชนไอซีที EGA , SIPA และ ETDA แถลงยุทธศาสตร์ ทิศทางและนโยบายการพัฒนาประเทศ เพื่อรับมือสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน


13 March 2558
1401

เมื่อวันที่ ๑-๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕๖  สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (EGA) ร่วมด้วย สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟแวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (SIPA) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (ETDA) ภายใต้การดำเนินงานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดงานแถลงข่าวยุทธศาสตร์ ทิศทางและนโยบายการพัฒนาประเทศของสามองค์การมหาชน พร้อมมือสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ณ โรงแรมชาโต เดอ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับเกียรติจาก นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, นายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน), นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และนางไอรดา เหลืองวิไล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ร่วมแถลงถึงยุทธศาสตร์ในการเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สารของประเทศ รับมือประชาคมอาเซียน (AEC) ในอนาคตอันใกล้

โดยเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ มีพิธีเปิดกิจกรรม ขบวน Van Rally ณ บริเวณด้านหน้าศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ อาคาร B โดยมีนาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธาน

จากนั้นขบวนแรลลี่ได้เดินทางไปร่วมบริจาคสิ่งของให้น้องผู้ยากไร้ ณ โรงเรียนบ้านโป่งกะสัง จังหวัดนครราชสีมา และในช่วงบ่ายเป็นงานแถลงยุทธศาสตร์ ทิศทางและนโยบายการพัฒนาประเทศ เพื่อรับมือสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภายใต้กรอบ ๓ องค์การมหาชน โดย ดร. ศักดิ์ เสกขุนทด สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) นายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และนางสุรางคณา วายุภาพ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หลังจากนั้นคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนได้ร่วมกิจกรรม “เชฟกระทะเหล็ก” และ รับประทานอาหารค่ำร่วมกัน ภายใต้กิจกรรม The Colorful Night Party โดยมีนาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวต้อนรับคณะสื่อมวลชน

และในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษแก่สื่อมวลชนในประเด็นนโยบาย และทิศทางต่างๆ 

ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.510083152363373.105989.100000850770441&type=1

 

ยุทธศาสตร์ ทิศทางและนโยบายการพัฒนาประเทศ เพื่อรับมือสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA เดินเกมสนับสนุนซอฟต์แวร์ไทย จับมือซิป้าหวังดึงส่วนแบ่งด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ แจ้งเกิดระบบซอฟต์แวร์มาตรฐานผ่านเว็บ พร้อมร่วมมือผลักแอพเซ็นเตอร์ภาครัฐ ดึงสพธอ.วางมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัยระบบบูรณาการข้อมูลภาครัฐ หวังประชาชนมั่นใจ

 

นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA เปิดเผยว่า จากแนวทางของรัฐบาลที่ต้องการสร้าง Smart Thailand โดย EGA จะเข้ามาขับเคลื่อนระบบไอทีให้กับภาครัฐทั้งหมดนั้น ในปี 2556 ได้วางเป้าหมายขยายเครือข่าย GIN หรือ เครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐเพิ่มขึ้นกว่า 2,000 หน่วยงาน ขึ้นระบบคลาวน์คอมพิวติ้งภาครัฐมากกว่า 130 ระบบ พัฒนาระบบซอฟต์แวร์พื้นฐานของภาครัฐให้ใช้บริการผ่านเว็บไซต์ได้ หรือเรียกว่า Software as a Service (SaaS) มีบริการเสริมในด้านต่างๆ บนคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับภาครัฐ และมีการบูรณาการข้อมูลภาครัฐโดยจับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะด้าน เช่น โครงการเกษตรกรอัจฉริยะ หรือ Smart Farmer  โครงการ POST@Home เป็นต้น ซึ่งเท่ากับเป็นการเดินแผนรุกเต็มตัว หลังจากปีที่ผ่านมาเน้นสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีให้มีความแข็ง แกร่ง

 

ร่วมมือกับ SIPA เพื่อเปิดตลาดซอฟต์แวร์ไทยเข้าสู่บริการภาครัฐ

อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมา EGA พบว่าซอฟต์แวร์ที่หน่วยงานภาครัฐเลือกใช้ส่วนใหญ่มาจากซอฟต์แวร์จากต่าง ประเทศ หรือจากซอฟต์แวร์ของคนไทยที่ต้องผ่านภาคเอกชนไอทีขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องไปเกี่ยวข้องกับระบบการประมูล ที่หน่วยงานภาครัฐต้องการความมั่นคงและไม่เกิดปัญหาการทิ้งงานในอนาคต ดังนั้นโอกาสเติบโตของซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก และซอฟต์แวร์ที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่ด้วยฝีมือของเด็กไทยนั้นจึงมีน้อยมาก แต่ขณะเดียวกันเทคโนโลยีสมัยใหม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ภาครัฐเองอยู่ระหว่างการปรับตัวเพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีเหล่านี้

 

ขณะที่ระบบ G-Cloud ที่ทาง EGA ผลักดันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบไอทีในภาครัฐอย่างมาก และจะเป็นการเปิดโอกาสให้ซอฟต์แวร์ไทยทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ได้เข้ามาขยาย ตลาดในระบบราชการไทยมากขึ้น โดยเฉพาะรูปแบบการจัดซื้อที่เปลี่ยนจากการซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์มาเป็นการ ซื้อบริการ หรือใช้มากจ่ายมากใช้น้อยจ่ายน้อย ซึ่งจะตรงกับแนวทางการสนับสนุนซอฟต์แวร์ไทยร่วมกับสำนักงานส่งเสริม อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA

 

ดังนั้นบทบาทของ EGA ในการสร้างระบบไอที จึงเน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสถาปัตยกรรมต่างๆ โดยไม่ตัดโอกาสภาคเอกชน ไม่เข้าแข่งขัน หรือแย่งตลาดไอทีภาครัฐจากเอกชน โดยจะเน้นการกำหนดมาตรฐาน สร้างสาธารณูปโภคเอาไว้รองรับเพื่อทำให้วงการซอฟต์แวร์เกิดความเข้มแข็งและ ขยายตัวได้มากขึ้น

 

ความร่วมมือของ EGA กับ SIPA ในปีนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น โดยมีแผนรูปธรรมจากงานของ EGA คือ 1.การจัดทำซอฟต์แวร์พื้นฐานในระบบราชการให้เป็นแบบ Software as a Service 2.การสร้าง Government Application Center ซึ่งทั้งสองโครงการนี้จะสร้างแนวทางใหม่ให้กับตลาดซอฟต์แวร์ไทยในตลาดราชการ อย่างมาก

 

ในส่วนของการจัดทำซอฟต์แวร์พื้นฐานในระบบราชการแบบ SaaS นั้น ขณะนี้ EGA ได้ทำการสำรวจเบื้องต้นพบว่าชนิดของซอฟต์แวร์ที่หน่วยงานภาครัฐทั่วไปจำเป็น ต้องมีใช้เหมือนกันจะประกอบด้วย ซอฟต์แวร์ด้านสารบรรณ ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์เกี่ยวกับการเดินหนังสือ การอนุมัติ และอื่นๆ ซึ่งขณะนี้แทบจะทุกหน่วยงานของภาครัฐต้องจัดซื้อจัดจ้างซอฟต์แวร์ประเภทนี้ มาใช้งาน แต่เนื่องจากมาตรฐานของซอฟต์แวร์จากภาคเอกชน รวมถึงความต้องการใช้งานของภาครัฐทั้งหลายไม่ตรงกัน ทำให้การต่อเชื่อมระหว่างหน่วยงานไม่สามารถดำเนินการได้ ทำให้ภาครัฐสิ้นเปลืองงบประมาณไปกับซอฟต์แวร์ประเภทนี้อย่างมาก แนวคิดของ EGA คือปรับระบบซอฟต์แวร์นี้มาใช้บน Cloud ในพื้นฐานเดียวกัน แต่มีความหลากหลายแบรนด์ หลายแหล่งผลิตซอฟต์แวร์ เปิดกว้างให้ทุกรายได้เข้าถึง และให้หน่วยงานรัฐทั้งหลายเข้ามาเลือกใช้และตัดสินเองว่าของใครดีที่สุด เหมาะกับตัวเองที่สุด ซึ่งในขั้นต้นภายในครึ่งปีนี้จะมีซอฟต์แวร์ต้นแบบจากภาคเอกชนสามารถขึ้นให้ บริการบน G-Cloud ได้ทันที

 

ส่วนซอฟต์แวร์อีก  3 ชนิดที่ EGA ประเมินเบื้องต้นว่าสมควรเป็นบริการพื้นฐานคือ ซอฟต์แวร์ด้าน web conference หรือการจัดประชุมทางไกลทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งขณะนี้มีความต้องการจากหน่วยงานจำนวนมาก และต้องทำให้เชื่อมต่อกันได้ทีละหลายหน่วยในเวลาเดียวกัน, ซอฟต์แวร์ทางด้าน Document Management หรือระบบจัดการเอกสาร และซอฟต์แวร์ทางด้าน Project Management หรือการบริหารโครงการ ซึ่งซอฟต์แวร์ทั้งหมดต้องอยู่บนเงื่อนไขของการทำงานบน G-Cloud และต้องเป็น SaaS

 

สิ่งที่ EGA มีแผนที่จะดำเนินการร่วมกับทาง SIPA ในส่วนนี้คือ ทาง EGA จะให้ SIPA ช่วยดำเนินการในส่วนของการคัดเลือกซอฟต์แวร์จากภาคเอกชนเข้าร่วม ภายใต้เงื่อนไขกติกาที่กำหนดร่วมกันเนื่องจาก SIPA จะใกล้ชิดกับภาคเอกชน และสมาคมทางด้านซอฟต์แวร์มากกว่า สามารถเข้าใจผลิตภัณฑ์และทำงานใกล้ชิดได้ นอกจากนั้น SIPA ยังมีโครงการบ่มเพาะ หรือโครงการสนับสนุนซอฟต์แวร์ทางด้านต่างๆ อยู่แล้ว ซึ่ง EGA เชื่อมั่นว่า จะสร้างกลไกที่ทำให้ซอฟต์แวร์เหล่านี้ตรงตามมาตรฐานที่ EGA และภาครัฐต่างๆ วางไว้ได้ ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้จะมีซอฟต์แวร์ทุกด้านที่เป็นมาตรฐานกลางให้ภาครัฐได้ ทดลองใช้ และจะเกิดการแข่งขันอย่างเป็นจริงในปีงบประมาณหน้าเป็นต้นไป

 

ส่วนโครงการที่ 2 คือ Government Application Center ซึ่งจะทำหน้าที่เหมือน App Store หรือ Android Market ที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนให้เกิดแอพพลิเคชั่นทั้งสำหรับหน่วยงานราชการ และประชาชน ขณะนี้ทาง EGA ได้จัดตั้งทีมที่ปรึกษาเพื่อศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ทั้งในส่วนของเทคนิคไปจนถึงโครงสร้างทางธุรกิจและการให้บริการ นอกจากนั้นจะศึกษาในส่วนของความต้องการภาครัฐและความสามารถของภาคเอกชนในการ ผลิตซอฟต์แวร์รองรับ โดยยึดหลัก Customer Centric หรือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

 

EGA จะดำเนินการร่วมกับทาง SIPA ในส่วนของ Government Application Center ได้เช่นเดียวกับโครงการในส่วนแรก โดยที่โครงการในส่วนที่ 2 นี้ยังอาศัยประสบการณ์จากที่ทาง SIPA ร่วมกับสมาคมภาคเอกชนด้านไอทีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการใช้เวทีในรูปแบบ เดียวกับ Thailand ICT Award หรือ TICTA เพือเป็นกลไกหรือเครื่องมือหนึ่งในการคัดเลือกแอพพลิเคชั่นสำหรับให้บริการ ผ่าน Government Application Center ซึ่งเป็นการสร้างกลไกให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนหรือผู้ใช้บริการ รวมถึงสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนได้

 

สำหรับระบบ Core System ของระบบทั้งหมดขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพัฒนา ซึ่งทาง EGA จะเป็นผู้รับผิดชอบและลงทุนทั้งหมด ซึ่งในปีแรกการดำเนินการให้ระบบติดตั้งได้สำเร็จจะใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท และได้เตรียมแผนและงบประมาณสำหรับดูแลและพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี

 

EGA บูรณาการข้อมูล ETDA กำหนดมาตรฐานความปลอดภัย

ในส่วนของการเชื่อมโยงการทำงานกับสำนักงานธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA นั้นทาง EGA จะร่วมกันสองแนวทางคือการผนึกกำลังในการร่วมผลักดันโครงการเฉพาะด้าน กับการร่วมในส่วนของการสร้างระบบบูรณาการข้อมูลและ e-Service โดยทั้งหมดจะทำให้เกิดระบบการบริหารงานภาครัฐ เกิดการบูรณาการที่นำไปสู่การให้บริการประชาชนและภาคธุรกิจเกิดความเชื่อ มั่นมากขึ้น

 

ส่วนของโครงการเฉพาะด้านนั้น EGA จะเข้าร่วมในโครงการ National Single Window ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องการนำเข้า-ส่งออก โดย ETDA จะรับผิดชอบในส่วนของการจัดทำมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง  รวมถึงการปรับแก้กฎหมายและกฎระเบียบซึ่งจะช่วยให้โครงการดังกล่าวสามารถเดิน หน้าได้ แต่ในส่วนของ EGA จะเข้ามาดูแลและสนับสนุนในส่วนของบริการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานเช่น เครือข่าย GIN สำหรับการเชื่อมโยงระบบของหน่วยงานภาครัฐจำนวน 37 หน่วยงาน และบริการ G-Cloud  สำหรับแอพพลิเคชั่น

 

สำหรับความร่วมมือในส่วนของการสร้างระบบบูรณาการข้อมูลและ e-Service ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยให้ภาครัฐมีความพร้อมในการบูรณาการข้อมูลให้ มีคุณภาพและนำไปสู่การพัฒนา Service/e-Service ที่ใช้ประโยชน์จากเลข 13 หลักหรือบัตร Smart Card เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการทำธุรกรรมกับภาครัฐ  ซึ่งโครงการนี้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจาก ETDA ในส่วนของการปรับแก้กฎหมายและระเบียบเช่นเดียวกับการมีแนวปฎิบัติที่เหมาะสม และการมีมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทั้งหน่วยงานผู้ให้บริการและประชาชนผู้ใช้ บริการอีกด้วย

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่: 

ส่วนส่งเสริมการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

นายธรรณพ ศิริธรรมวิไล

โทรศัพท์ 0-2612-6000 ต่อ 6203

โทรศัพท์มือถือ 08-1845-1459

 

อีเมล์ thannop.sirithamwilai@ega.or.th