DGA เปิดผลงาน ยกระดับรัฐบาลดิจิทัล ตั้งเป้าปี 2570 EGDI ขึ้นอันดับ 40 ของโลก พร้อมปรับบทบาทเป็นผู้ร่วมคิด สร้างสรรค์ เชื่อมต่อภาครัฐกับประชาชน เพื่อ Smart Nation Smart Life ให้เกิดจริง
DGA จัดงาน “Connect to be Better” เปิดศักราชใหม่ ประกาศวิสัยทัศน์เดินหน้าทรานส์ฟอร์มรัฐบาลสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล พร้อมชูกลยุทธ์ปรับภาพลักษณ์องค์กรให้ทันสมัย เข้าถึงง่าย แสดงถึงการเป็นผู้ร่วมคิด ร่วมสร้างสรรค์ เชื่อมต่อภาครัฐกับประชาชน สู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่เป็นจริง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ดร. สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) กล่าวว่า เราเดินหน้าปรับภาพลักษณ์ภายใต้ความท้าทายที่จะทำให้ DGA เป็นองค์กรที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน มากกว่าพูดแค่เรื่องเทคโนโลยีโดยเราเน้นการสร้างคุณค่าองค์กรให้พร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อยกระดับวิถีชีวิตของคนไทยและประเทศให้ดีและทันสมัยยิ่งขึ้นซึ่งการวางกลยุทธ์ใหม่นี้ทำให้องค์กรเราเห็นตัวตนที่ชัดเจนขึ้นว่าคน DGA จะต้องมีพันธุกรรม หรือ DNA ของการเป็น “Smart Connector” หรือ ผู้ร่วมคิดร่วมสร้างสรรค์ และพร้อมทำงานเชื่อมต่อภาครัฐกับประชาชนเพื่อทำให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น ที่ผ่านมา DGA มีผลงานเด่นในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงบริการภาครัฐกว่า 80 บริการเพื่อให้บริการประชาชน ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งมียอดการใช้งานสะสมกว่า 3.8 ล้านครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนรับบริการรัฐได้ ผ่านช่องทางเดียว ง่าย จบ ครบทุกช่วงวัย ในขณะที่ SME หรือภาคธุรกิจก็ได้รับการอำนวยความสะดวกในการติดต่อขอรับบริการจากภาครัฐกว่า 95 ใบอนุญาต ผ่าน bizportal.go.th ซึ่งช่วยให้การเริ่มต้นธุรกิจเป็นเรื่องง่ายขึ้น
และเมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา DGA เดินหน้ายกระดับงานบริการประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เปิดตัวระบบท้องถิ่นดิจิทัล เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ อปท.ให้มีประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนในท้องถิ่นได้รวดเร็ว โดยมีเป้าหมายสนับสนุนอปท. จำนวน 400 แห่งให้ได้ในปี 2566 ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งที่ชี้ให้เห็นบทบาทที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณของ DGA ที่เป็น “Smart Connector” เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทยที่ดีขึ้น ซึ่งผลลัพธ์จากการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ร่วมกับหน่วยงานรัฐต่างๆ ส่งผลให้ประเทศไทยได้อันดับการพัฒนาด้านรัฐบาลดิจิทัลที่จัดสำรวจโดยองค์การสหประชาชาติ (UN) เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดร. สุพจน์ เธียรวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า การทำให้ไทยก้าวเข้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบนั้นยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด DGA ได้นำเสนอ (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศ พ.ศ. 2566 – 2570 ผ่านความเห็นชอบจากสภาพัฒนาเศรษกิจและสังคมแห่งชาติไปแล้ว โดยเป้าหมายในปีนี้คือ ภาครัฐต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและเปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐ เชื่อมโยงและพัฒนาบริการที่สะดวก ใช้ง่าย เข้าถึงประชาชนและภาคธุรกิจให้เป็น One Stop Service โดยทำไปพร้อมกับการพัฒนา Digital Skill ให้กับบุคลากรภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดย DGA มีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของไทย E-Government Development Index (EGDI) Ranking ให้อยู่ที่อันดับ 40 ของโลกให้ได้ภายในปี 2570 เพื่อให้สอดคล้องกับ Brand Value ขององค์กรนั่นคือ “รัฐบาลดิจิทัลเพื่อสร้างประเทศให้ทันสมัย (Smart Nation) ยกระดับวิถีชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น (Smart Life)”
ภารกิจงานด้านรัฐบาลดิจิทัลนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเรือธงสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้เทียบเท่าสากล โดย DGA ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพจัดทำแผนงานบูรณาการรัฐบาลดิจิทัล ได้นำเสนอแผนงานดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณารายจ่ายงบประมาณแผนงานบูรณาการ ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการภายใต้แผนทั้งสิ้น 78 โครงการ จาก 51 หน่วยงาน รวมงบประมาณทั้งสิ้น 5,523.9110 ล้านบาท ตามที่ DGA นำเสนอ หลังจากนี้ข้อมูลทั้งหมดจะจัดส่งไปยังสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาจัดทำเป็นร่าง พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567 ตามลำดับต่อไป” ดร.สุพจน์ กล่าวทิ้งท้าย
“DGA ต้องการเห็น คุณภาพชีวิตคนไทยดีขึ้น เราต้องการเห็นระบบสาธารณสุขที่คนไทย เข้าถึงบริการได้ง่าย ทั่วถึง ลดความเหลื่อมล้ำ เราต้องการเห็นภาคธุรกิจดำเนินธุรกิจได้อย่าง รวดเร็ว ราบรื่น ยกระดับประสิทธิภาพขององค์กร เราอยากเห็นประเทศของเราทันสมัย ก้าวหน้าทันโลก เพื่อ ความภูมิใจของคนไทยทุกคน และเราเชื่อว่าบริการภาครัฐที่ เข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส มีอยู่จริง ทำได้จริง ”