6 หน่วยงานนำร่องเชื่อมข้อมูลตรวจสอบหลักประกันการชำระหนี้ทางอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มศักยภาพการลงทุนในประเทศ
6 หน่วยงานรัฐประเดิมช่องทางการตรวจสอบข้อมูลหลักประกันการชำระหนี้ทางอิเล็กทรอนิกส์เปิดช่องตรวจสอบข้อมูลร่วมกันทั้งระบบ ป้องกันการวางหลักประกันซ้ำซ้อน มั่นใจระบบนำร่องเสร็จจะเพิ่มหน่วยงานและเชื่อมโยงข้อมูลทั้งระบบให้รัฐและเอกชนได้
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA (อีจีเอ) เปิดเผยว่า จากการที่เริ่มอนุมัติให้มีการนำสังหาริมทรัพย์มาจดทะเบียนเป็นหลักประกันการชำระหนี้ต่อหน่วยงานต่างๆ ในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำมาเป็นหลักประกันซ้ำซ้อนสร้างความเสียหายต่อภาครัฐในระยะยาวได้ ทาง EGA และหน่วยงานนำร่อง ได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมเจ้าท่า กรมการปกครอง และกรมการขนส่งทางบก จึงมีแนวคิดการเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกันเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ดังกล่าว
ในระยะแรก 5 หน่วยงานที่เป็นต้นทางของข้อมูล จะร่วมมือพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันการชำระหนี้ของหน่วยงานต่างๆ ให้รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานตามรูปแบบและแนวทางที่ EGA ได้วางเอาไว้ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ได้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลในฐานข้อมูลของแต่ละหน่วยงาน พร้อมร่วมกันกำหนดรายละเอียดรูปแบบข้อมูลที่เชื่อมโยงข้อมูลของผู้ที่มีส่วนได้เสียและประชาชนสามารถตรวจสอบได้
“ทาง EGA ได้กำหนดรูปแบบ แนวทางการพัฒนาระบบสนับสนุนการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันการชำระหนี้ โดยคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ พร้อมให้คำปรึกษาด้านเทคนิคในการเชื่อมโยงข้อมูล และปรับปรุงระบบสารสนเทศ รวมถึงให้บริการ และสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ เครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงาน (Government Information Network : GIN) บริการระบบคลาวด์ภาครัฐ (G-Cloud) ไปพร้อมๆ กัน” ดร.ศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากมีการพัฒนาระบบเสร็จสิ้นแล้วจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับภาครัฐ และเอกชนผ่านโครงการนำร่องระบบดิจิทัลดังกล่าว คาดว่าในอนาคตหน่วยงานอื่นๆ ที่ต้องใช้หลักประกันประเภทสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ก็จะสนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น