’อนุดิษฐ์’ สั่งทีโอที-กสท งดเก็บค่าบริการพื้นที่น้ำท่วม
รมว.ไอซีที มอบหน่วยงานในสังกัดจัดบริการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กำชับทีโอที-กสท ยกเว้นค่าธรรมเนียมช่วงน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน…
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.54 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก กระทรวงจึงมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบ อุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ โดยจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยของกระทรวง ซึ่งแต่ละหน่วยงานได้จัดทำโครงการและแผนงานต่างๆ เพื่อเยียวยาประชาชน และผู้ประกอบการในหลากหลายรูปแบบ
ทั้งนี้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำแผนสนับสนุนการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมแก่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบ ภัยในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมต่างๆ ได้แก่ บริการโทรศัพท์ประจำที่ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ADSL บริการ Leased Line บริการ VDO Conference เพื่อให้บริการภายในศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในแต่ละพื้นที่ ทั้ง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง อีกทั้งยังให้บริการติดต่อสอบถาม แจ้งเหตุร้องเรียน ขอความช่วยเหลือของประชาชนผ่านเลขหมาย GCC 1111 กด 5 ด้วย
นอกจากนี้ ยังจัดทำแผนการตรวจแก้คืนดีบริการของ ทีโอที ให้ใช้บริการได้ตามเดิม โดยได้จัดตั้งกองงานตรวจแก้เร่งด่วนให้แก่ลูกค้า เพื่อดำเนินการซ่อมแซม เปลี่ยนสายภายใน และกันฟ้าให้บ้านลูกค้า รวมทั้งมีการเปลี่ยน Modem ADSL ให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและได้รับความเสียหายจาก อุทกภัยด้วย โดย ทีโอที จะไปดำเนินการตรวจแก้คืนดีบริการภายใน 7 วัน สำหรับพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว เช่น จ.เชียงใหม่ พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และกำลังดำเนินการที่ จ.พระนครศรีอยุธยา บางแห่ง เช่น โรงพยาบาล เป็นต้น พร้อมกันนี้ ทีโอที ยังได้วางแผนการบรรเทาค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าที่ประสบภัย โดยยกเว้นการเรียกเก็บค่าใช้บริการโทรศัพท์ประจำที่ และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ADSL ให้แก่ลูกค้าในระยะเวลาที่ประสบภัยพิบัติด้วย ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วในพื้นที่ที่น้ำลด โดยหากประชาชนมาติดต่อขอให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าใช้บริการ ทีโอที ก็จะไปทำการตรวจสอบ พร้อมยกเลิกการเรียกเก็บค่าใช้บริการให้ตามระยะเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน
ส่วนบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ได้จัดทำโครงการพิเศษขึ้น คือ โครงการจัดรถยนต์สนับสนุนการขนส่งสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยได้ร่วมมือกับ ศปภ.ในการขนส่งถุงยังชีพไปยังสถานที่ต่างๆ ตามที่ได้รับแจ้งวันละประมาณ 2 เที่ยว รวมทั้งจัดทำแผนการให้บริการขนส่งวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วย นอกจากนั้น ยังได้จัดทำโครงการจิตอาสา ทำความสะอาดหน่วยงานในสังกัด ทก. และโรงเรียนที่ประสบปัญหาอุทกภัย เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูสถานที่ที่ให้บริการประชาชนและโรงเรียนต่างๆ
ด้านบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้ทำโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยระงับการเรียกเก็บค่าใช้บริการช่วงระยะเวลาที่เกิดเหตุน้ำท่วม จนกระทั่งลูกค้าสามารถกลับมาเปิดกิจการได้ใหม่ ซึ่งเริ่มดำเนินการในพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว หากประชาชนมาติดต่อขอให้มีการยกเว้นการเรียกเก็บค่าใช้บริการ กสท จะไปทำการตรวจสอบ พร้อมยกเลิกการเรียกเก็บค่าใช้บริการให้ตามระยะเวลาที่ไม่ได้ใช้งานด้วย
สำหรับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ในสังกัดกระทรวง ได้มีการจัดทำโครงการระบบศูนย์รวมข้อมูลอุทกภัยไทย (Thai Flood Information Portal) เพื่อประชาชนสามารถค้นหาข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยจากแหล่งข้อมูลต่างๆ และแยกรายจังหวัดได้ โดยเปิดบริการผ่านเว็บไซต์ ศูนย์รวมข้อมูลอุทกภัยไทย http://flood.ega.or.th/flood/index.php ที่มีทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญในการดูแลและปรับปรุงข้อมูลข่าวสารให้เป็น ปัจจุบันและทันสมัยตลอดเวลา
พร้อมกันนี้ ยังได้จัดโครงการรับฝากเซิร์ฟเวอร์ของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่หน่วยงานภาครัฐที่ประสบปัญหา น้ำท่วมในการฝากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ สรอ.เป็นการชั่วคราว โดยจะให้การสนับสนุนเท่าที่ดาต้าเซ็นเตอร์ของ สรอ. จะมีทรัพยากรสนับสนุนได้ หากดาต้าเซ็นเตอร์มีทรัพยากรไม่เพียงพอแล้ว สรอ.จะพยายามประสานงานกับผู้ให้บริการรายอื่นเพื่อรับฝากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ของหน่วยงานภาครัฐที่ประสบปัญหาต่อไป นอกจากนี้ สรอ.ยังได้จัดให้บริการระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กลางเพื่อการสื่อสารในภาค รัฐ (MailGoThai) แก่หน่วยงานภาครัฐที่ประสบภัย เช่น ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค), ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค), โรงพยาบาลจังหวัดต่างๆ เป็นต้น
ที่มา: ไทยรัฐ 23/11/54