สรอ.เดินหน้า ใส่บริการเสริมชุดใหญ่ ปรับเครือข่ายสื่อสารเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐเป็น GIN 2.0
สรอ.เดินหน้า ใส่บริการเสริมชุดใหญ่ ปรับเครือข่ายสื่อสารเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐเป็น GIN 2.0 มั่นใจช่วยหน่วยงานรัฐเชื่อมต่อบริการภาครัฐสำคัญๆ ผ่านเครือข่ายได้ทันที พร้อมปรับสร้างเครือข่ายใหม่ลดความซ้ำซ้อน เสริมเทคโนโลยีไฮเทครองรับ เพิ่มความเร็วของการใช้งาน
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สรอ. เปิดเผยว่า ในไตรมาสสามของปีนี้ สรอ.ได้ผลักดันให้ ระบบเครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐหรือระบบ GIN เป็นเวอร์ชั่น GIN2.0 โดยจะทำเครือข่าย GIN ให้เป็นเครือข่ายที่ทันสมัยที่รองรับทั้งเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการผนวกเข้ากับระบบบริการสำคัญๆของภาครัฐ เพื่อเสริมประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้งานเครือข่าย GIN
เครือข่าย GIN2.0 ได้ยกระดับโครงข่ายหลักเป็นไปสู่ IPV6 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสามารถรองรับการทำงานของหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดได้ โดยหน่วยงานที่เชื่อมต่อสามารถเข้าสู่ระบบ IPV6 โดยอัตโนมัติ แต่หน่วยงานภาครัฐเองก็ต้องดำเนินการปรับปรุงระบบภายในของตนให้เป็น IPV6 เช่นกัน ซึ่งสรอ. กำลังช่วยผลักดันอยู่ทั้งการให้ความรู้ และเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเป็นการเร่งให้เครือข่ายทั้งระบบเข้าสู่โปรโตคอลนี้โดยเร็วที่สุด นอกจากนั้น GIN2.0 ยังมีระบบ Time Stamp, Single Sign On, Advanced VDO Conference, System Center Configuration Manager (SCCM) ที่ทำให้ระบบ GIN2.0 มีความทันสมัยที่สุด โดยจะทยอยผลักดันออกมาให้บริการอย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นหน่วยงานทุกหน่วยเมื่อเชื่อมต่อเข้ากับ GIN2.0 แล้ว หากมีการบันทึกข้อตกลงกับหน่วยงานรัฐอย่าง ระบบทะเบียนราษฎร์ ของกรมการปกครอง ที่เป็นระบบแจ้งรายละเอียดและยืนยันตัวบุคคล รหัส 13 หลักของงานทะเบียนราษฎร์ ประโยชน์คือ สามารถตรวจสอบประวัติบุคคลทั่วไปได้ โดยผ่านเครือข่าย GIN โดยที่ไม่ต้องเดินสายต่อตรงไปที่กรมการปกครองอีก, นอกจากนี้สรอ. ยังอยู่ระหว่างหารือร่วมกับอีกหลายระบบงาน อย่างเช่น ระบบ GFMIS ของ กรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐ ประโยชน์คือ หน่วยงานรัฐต่างๆ ที่เชื่อมกับระบบนี้ผ่าน GIN2.0 สามารถกรอกความก้าวหน้าในการใช้งบประมาณของหน่วยงานไปยังกรมบัญชีกลางได้ ทันที
ระบบ NSW ของกรมศุลกากร ซึ่งเป็นระบบการแลกเปลี่ยนเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ในด้านการทำใบอนุญาตการส่งออก-นำเข้า ซึ่งหน่วยงานรัฐต่างๆ สามารถตรวจสอบการเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้เข้ากับหน่วยงานของตนเองได้โดย ทันที, ระบบ CABNET ของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ สลค.ซึ่งเป็นระบบการแจ้งวาระการประชุมและส่งเอกสารการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการนำเรื่องเข้าประชุมครม. สามารถตรวจสอบวาระที่มีอยู่แล้ว และยังสามารถคาดการณ์ช่วงเวลาของการนำเสนอเรื่องเข้าประชุมของหน่วยงานตนเอง ได้ ทำให้เวลาที่ใช้ในการประสานงานลดน้อยลง
ระบบ GSMS ของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ซึ่งเป็นระบบการบริหารยุทธศาสตร์ขององค์การภาครัฐ เป็นระบบที่ช่วยในการออกแบบและการวางแผนการจัดการยุทธศาสตร์ การจัดทำแผนการปฎิบัติการและการติดตามความก้าวหน้าในการปฎิบัติงาน หน่วยงานภาครัฐที่ใช้ GIN2.0 ก็สามารถเชื่อมโยงและตรวจสอบแผนของหน่วยงานของตนเองเข้ากับระบบของกพร.ได้ โดยทันที และสุดท้ายคือ ระบบเชื่อมโยงระบบสารบรรณภาครัฐ ของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นระบบเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ที่ถือเป็นแอพพลิเคชันหลักในการทำงานอย่างหนึ่งของหน่วยงานภาครัฐในปัจจุบัน
การเชื่อมโยงระบบงานหลักๆ ของภาครัฐ ให้สามารถใช้บริการผ่าน GIN ได้จะช่วยภาครัฐลดความซ้ำซ้อนของงบประมาณด้านเครือข่ายได้เป็นอย่างมาก โดยหน่วยงานไม่จำเป็นต้องเดินสายเครือข่ายตรงไปที่หน่วยงานบริการระบบหลัก ต่างๆ อีกต่อไป สามารถใช้ผ่านเครือข่ายที่ให่บริการและดูแลโดยสรอ. ไดทันที ทั้งนี้ สรอ. เตรียมพิจารณาระบบงานอื่นๆ เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องในระยะถัดไป
สิ่งที่เสริมเข้ามาเพิ่มเติมจากเครือข่าย GIN เดิมอีกประเด็นคือ สรอ.ได้ทำการออกแบบโครงข่ายเน็ตเวิร์คใหม่ถือเป็นการลดความซ้ำซ้อนของโครง ข่าย จากเดิมที่เน้นการเดินสายโครงข่ายคู่กันไประหว่าง CAT และ TOT ในจำนวนเท่ากัน มาเป็นการปรับเครือข่ายหลักและสำรองตามความต้องการจริงของหน่วยงานุผู้ใช้ บริการ โดยเสริมบริการสำคัญตามมาตรฐานสากล และมีสร้างระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เกิดความสะดวก และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเป้าหมายของสรอ.ในการให้บริการคือ หน่วยงานรัฐในกรุงเทพมหานคร จะมีการรับรองระดับการให้บริการ หรือ Service Level Agreement (SLA) ไม่ต่ำกว่า 99.3% ขณะที่ต่างจังหวัดจะเป็น 99.00% โดยเป็นการรับรองระดับบริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ที่ 99.50%ในปี 2555 และในปีถัดไปที่ กทม.จะเป็นขยับเพิ่ม SLA เป็น 99.50% ขณะที่ต่างจังหวัดจะเพิ่มเป็น 99.30% สำหรับอินเทอร์เน็ตเกตเวย์จะยังเพิ่มเป็น 99.95% โดยเน้นการบริหารเครือข่ายหลักไปที่ระดับกระทรวง และจังหวัดเป็นหลัก
นอกจากนั้นทางสรอ.ยังได้จัดทำระบบคอลล์เซ็นเตอร์ ที่เป็นศูนย์กลางการรับแจ้งและตอบปัญหาตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีหยุดพัก อย่างไรก็ตามแม้ว่าสรอ.จะทำการปรับปรุงการบริการส่วนเสริมที่ใช้ทางด้าน เทคโนโลยี การบริการ และการเชื่อมโยงส่วนของข้อมูลใหม่ๆ เข้ามาเสริม แต่ในส่วนของโครงข่ายหลักซึ่งถือว่าเป็นส่วนของการลงทุนนั้นในปีนี้สรอ.ได้ รับพิจารณาอนุมัติงบประมาณปี 55 ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถจัดสรรเครือข่าย GIN เพื่อรองรับการใช้งานให้กับหน่วยงานภาครัฐทุกแห่งได้ครบถ้วนตามที่ร้องขอ จึงจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากหน่วยงานรัฐนั้นๆ เพื่อให้บริการได้ตามวัตถุประสงค์ ด้วยการโอนงบประมาณหรือจัดทำสัญญาจ้างกับ สรอ. ในช่วงปีแรกเข้ามาแทนที่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:
ส่วนส่งเสริมการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
นายธรรณพ ศิริธรรมวิไล
โทรศัพท์ ๐-๒๖๑๒-๖๐๐๐ ต่อ ๖๒๐๓
โทรศัพท์มือถือ ๐๘-๑๘๔๕-๑๔๕๙
อีเมล์ thannop.sirithamwilai@ega.or.th