สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA
Smart Nation Smart Life ประเทศทันสมัย ชีวิตคนไทยก็ง่ายขึ้น
ในปี 2022 ransomware ได้ส่งผลกระทบต่อองค์กรขนาดใหญ่มากกว่า 200 รายใน U.S. ไม่ว่าจะเป็นทั้งรัฐบาล และเอกชน จากการเก็บข้อมูลจากรายงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การประกาศทางการ, ข้อมูลที่รั่วไหลจาก dark web และจาก third-party ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่ถูกขโมยออกมานั้นครึ่งนึงเกิดจากการโดน ransomware โจมตี จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ransomware ที่โจมตีใน U.S. ส่งผลกระทบไปยัง 105 ประเทศ, 44 มหาวิทยาลัย, 45 โรงเรียน และ 24 สถานบริการด้านสุขภาพ ถึงแม้ข้อมูลดังกล่าวจะไม่เที่ยงตรงมากนักเนื่องจากไม่ใช่ว่าเหยื่อทุกรายจะออกมาประกาศต่อสาธารณะเรื่องการโดน ransomware โจมตี แต่ก็พอบอกได้ว่าการโจมตีจาก ransomware มีแนวโน้มมากขึ้นในปี 2022
เมื่อเทียบกันกับปี 2021 ransomware ได้โจมตีไปยังรัฐบาล local ในประเทศมากขึ้นจาก 77 เป็น 105 แต่ตัวเลขเมื่อเทียบจากปีก่อนๆ นั้นยังถือว่าต่างไม่มาก และจากสิ่งที่ทาง Emsisoft ได้เน้นไว้คือ ในปี 2022 มีเพียงที่ Quincy, MA ที่เป็นรัฐบาล local ที่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่จำนวน 500,000 ดอลลาร์ ส่วนการโจมตีที่มีความสำคัญมากที่สุดใน U.S. เกิดที่ Los Angeles Unified School District ซึ่งโดนโจมตีโดยกลุ่ม Vice Society และทาง Emisoft บอกว่ามี 3 สถานที่การศึกษาที่ยอมจ่ายค่าไถ่ให้กับแฮกเกอร์ ซึ่งหนึ่งในสถานที่การศึกษาที่ยอมจ่าย 400,000 ดอลลาร์ ให้กับกลุ่ม Quantum คือ Glenn County Office of Education ส่วนในการติดตามเหตุการณ์ของสถานบริการด้านสุขภาพนั้นยากกว่าในส่วนอื่น เนื่องจากสาเหตุที่ว่าการเปิดเผยเรื่องการโดนโจมตีต่อสาธารณะนั้นไม่มีความชัดเจน และด้วยสาเหตุนี้เองทาง Emisoft จึงได้นับเฉพาะโรงพยาบาล และระบบเครือข่ายของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้งหมด 24 ราย ในปี 2022 ส่วนการโจมตีที่สำคัญที่สุดของในส่วนนี้คือที่ CommonSpirit Health ที่ให้บริการโรงพยาบาลมากกว่า 140 แห่ง จึงมีข้อมูลของคนไข้หลุดไปจำนวน 623,000 ราย
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับทั้งหมดคุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สพร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สพร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ สพร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ สพร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ สพร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ สพร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ สพร. จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ สพร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ สพร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน