การเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นดิจิทัล เทคโนโลยีเป็นเรื่องสุดท้าย
การเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นดิจิทัล เทคโนโลยีเป็นเรื่องสุดท้าย
โดยดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
เรามีบริการภาครัฐออนไลน์กว่า 800 บริการ เรามีแอปพลิเคชันของรัฐกว่า 200 ตัว เรามีเว็บไซต์ของหน่วยงานตั้งแต่ระดับกระทรวงไปจนถึง อบต. เป็นพันๆ เว็บไซต์ แต่ประชาชนยังต้องเอาสำเนาเอกสารไปประกอบการทำธุรกรรมกับรัฐ ยังต้องเซ็นเอกสารเป็นตั้งๆ ยังต้องรอคิวเป็นชั่วโมง ยังต้องโทรหาเพื่อสอบถามเวลาติดปัญหาต่างๆ ทั้งๆ ที่ประชาชนใช้โปรแกรมไลน์กว่า 40 ล้านคน หรือ ใช้เฟสบุ๊คในจำนวนไม่ต่างกันในการติดต่อสื่อสาร ซื้อของ ขายของ ไปจนถึงธุรกรรมต่างๆ พูดง่ายๆ คนไทยชินกับการทำอะไรแบบออนไลน์และไร้กระดาษในชีวิตประจำวันไปแล้ว
การเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลของคนไทยในช่วงไม่กี่ปีนี้ คือการเห็นถึงคุณค่าของมัน คนไทยเลยยอมจ่ายเงินค่ามือถือ ค่าเน็ต หัดเรียนรู้โปรแกรมเอง โดยไม่มีใครมาบังคับ ยอมเปลี่ยนจากคนที่ไม่กล้าแม้แค่กดปุ่มบนคอมพิวเตอร์ในอดีต มาเป็นการลงแอปฯ เอง ลองเล่นดู แต่ที่สำคัญมันไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่หรือคนเก่งไอทีเท่านั้น ทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กอนุบาลไปจนถึงคนเก่าคนแก่ ต่างยินยอมพร้อมใจเปลี่ยนผ่านตัวเองไปสู่ดิจิทัลด้วยกันทั้งสิ้น
คำถามคือจะทำอย่างไรให้ภาครัฐยอมเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล อย่างแรกเลยต้องมองเห็นคุณค่าของมันก่อน คุณค่าที่ว่านี้จะมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อพร้อมเปิดใจรับมัน เหมือนกับที่คุณตาคุณยายหัดใช้สมาร์ตโฟน หัดเล่นไลน์ จากนั้นเริ่มจากการสร้างคุณค่าโดยมองไปที่ประโยชน์ของผู้ใช้บริการเป็นตัวตั้ง โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นการสร้างคุณค่าจำเป็นต้องการนวัตกรรมมากๆ โชคดีที่เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาช่วยตรงนี้อย่างมาก เครื่องมือดิจิทัลต่างๆ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถลดข้อจำกัดต่างๆ ในอดีตได้อย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่การปฏิสัมพันธ์ การติดต่อสื่อสาร การใช้กระดาษ การตอบสนองในแบบทันทีทันใด เหล่านี้หมายถึงการลดค่าใช้จ่ายอย่างมาก และที่สำคัญคือลดเวลาด้วย
แต่เครื่องไม้เครื่องมือดิจิทัลไม่ได้ดีแค่ช่วยลดค่าใช้จ่ายหรือลดเวลาเท่านั้น มันเปิดโอกาสให้หลายๆ สิ่งในอดีตที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ก็สามารถทำได้โดยไม่ยากเลย ก่อเกิดธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ มากมาย ผลคือภาครัฐที่มีหน้าที่ให้บริการประชาชนตามไม่ทัน หรือยังคงติดกับวิธีคิดแบบเดิมๆ
ดังนั้นในแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลระยะ 5 ปี จึงต้องมีการทำโปรแกรมการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐ หรือ Digital Transformation Program ที่ปรับแนวคิดการให้บริการในยุคดิจิทัล เพราะถ้าไม่ทำสุดท้ายบริการออนไลน์ต่างๆ ที่ภาครัฐทำออกมาจะหาคนใช้แทบไม่ได้เลย
———————————–
ตีพิมพ์ลงใน หนังสือพิมพ์ Posttoday ฉบับวันที่ 30 มีนาคม 2560
คอลัมน์ e-Government หมวดเศรษฐกิจดิจิทัล หน้า C7